เมนู

พระศาสดา. อุปัชฌายะของเธอถูกย่าว่าอย่างไร ?
พระราหุล. ว่ากล่าวถ้อยคำชื่อนี้ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ส่วนอุปัชฌายะของเธอ ว่าอย่างไร ?
พระราหุล. ไม่ว่าอะไร ๆ เลย พระเจ้าข้า.

ภิกษุทั้งหลายสรรเสริญพระเถระ


ภิกษุทั้งหลาย ฟังคำนั้นแล้ว สนทนากันในโรงธรรมว่า " ผู้มีอายุ
ทั้งหลาย คุณทั้งหลายของพระสารีบุตรเถระน่าอัศจรรย์หนอ: เมื่อมารดา
ของท่านด่าอยู่ชื่ออย่างนั้น แม้เหตุสักว่าความโกรธ มิได้มีเลย."
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอ
นั่งสนทนากันด้วยกถาอะไรหนอ ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วย
กถาชื่อนี้," จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพทั้งหลาย
เป็นผู้โกรธเลย" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
17. อกฺโกธนํ วตวนฺตํ สีลวนฺตํ อนุสฺสทํ
ทนฺตํ อนฺติมสารีรํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" เราเรียกผู้ไม่โกรธ มีวัตร มีศีล ไม่มีตัณหา
เครื่องฟูขึ้น ผู้ฝึกแล้ว มีสรีระในที่สุดนั้นว่า เป็น
พราหมณ์."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วตฺตว1นฺตํ เป็นต้น ความว่า เราเรียก
ผู้ประกอบด้วยวัตรคือธุดงค์ ผู้มีศีลด้วยปาริสุทธิศีล 4 ผู้ชื่อว่าไม่มีตัณหา
1. บาลีเป็น วตวนฺตํ.

เครื่องฟูขึ้น เพราะไม่มีเครื่องฟูขึ้นคือตัณหา ผู้ชื่อว่าฝึกแล้ว เพราะฝึก
อินทรีย์ 6 ผู้ชื่อว่ามีสรีระมีในที่สุด เพราะอัตภาพอันตั้งอยู่ในที่สุดนั้น
ว่าเป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระสารีบุตรเถระ จบ.































18. เรื่องพระอุบลวรรณาเถรี [281]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระอุบล-
วรรณาเถรี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " วาริ โปกฺขรปตฺเตว " เป็นต้น.

มหาชนเข้าใจว่าพระขีณาสพยินดีกามสุข


เรื่องข้าพเจ้าให้พิสดารแล้วแล ในอรรถกถาแห่งพระคาถาว่า
" มธุวา มญฺญตี พาโล1" เป็นต้น.
จริงอยู่ ในที่นั้นข้าพเจ้ากล่าวว่า " โดยสมัยอื่นอีก มหาชนสนทนา
กันในโรงธรรมว่า " ถึงพระขีณาสพทั้งหลาย ชะรอยจะยังเสพกาม, ทำไม
จักไม่เสพ ? เพราะท่านเหล่านั้น ไม่ใช่ไม้ผุ ไม่ใช่จอมปลวก ยังมีเนื้อ
และสรีระสดชื่นอยู่เทียว; เหตุนั้น แม้พระขีณาสพเหล่านั้น จึงยังยินดี
กามสุขมีอยู่."

พระขีณาสพไม่ติดอยู่ในกาม


พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ
นั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วย
กถาชื่อนี้" จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย พระขีณาสพทั้งหลาย ย่อมไม่ยินดี
ซึ่งกามสุข ไม่เสพกาม, เหมือนอย่างว่าหยาดน้ำที่ตกลงบนใบบัว ย่อมไม่
ติด ไม่ค้างอยู่, ย่อมกลิ้งตกไปทีเดียวฉันใด; อนึ่ง เหมือนเมล็ดพันธุ์
ผักกาด ย่อมไม่ติด ไม่ตั้งอยู่บนปลายเหล็กแหลม, ย่อมกลิ้งตกไปทีเดียว
1. มาใน ธัมมปทัฏฐกถา ภาค 2 พาลวรรค เรื่องพระอุบลวรรณาเถรี.